ในวงการธุรกิจอาหารและการผลิตสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับสุขอนามัยการปฏิบัติตาม GMP (Good Manufacturing Practices) หรือ มาตรฐานการผลิตที่ดี เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้สินค้าได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าและหน่วยงานกำกับดูแลแต่ในปัจจุบัน GHP (Good Hygiene Practices) กำลังกลายเป็นมาตรฐานที่ได้รับความนิยมและสำคัญมากขึ้นสำหรับธุรกิจทำไมต้องพัฒนาไปสู่ GHP

1. ข้อกำหนดใหม่จากหน่วยงานกำกับดูแล หลายประเทศ รวมถึง ประเทศไทย เริ่มมีการปรับใช้แนวทางจาก GMP ไปสู่ GHP เนื่องจาก:

• กระทรวงสาธารณสุขของไทย ประกาศให้สถานประกอบการในอุตสาหกรรมอาหารต้องปฏิบัติตามหลัก GHP แทน GMP
• มาตรฐาน Codex Alimentarius ของ FAO/WHO ก็ได้ปรับแนวทางไปใช้ GHP เป็นหลักเช่นกัน

หากธุรกิจยังคงใช้ GMP แบบเดิม อาจพบว่าไม่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการรับรองคุณภาพและกระบวนการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ

2. ขยายขอบเขตความปลอดภัยของสินค้า GMP มักจะมุ่งเน้นที่กระบวนการผลิตเป็นหลัก แต่ GHP ครอบคลุมการดูแลสุขอนามัยตลอดทั้งห่วงโซ่อาหาร ตั้งแต่การเก็บวัตถุดิบ การขนส่ง ไปจนถึงการขนถ่ายสินค้า

ข้อดีของ GHP:

• ลดความเสี่ยงการปนเปื้อน ในทุกจุดของห่วงโซ่อาหาร
• เพิ่มมาตรฐานความปลอดภัย ในกระบวนการทั้งหมด ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าและตลาดสากลให้ความสำคัญ

หากธุรกิจของคุณต้องการเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยง GHP คือแนวทางที่เหมาะสมกว่า

3.เพิ่มโอกาสทางการค้าและความน่าเชื่อถือ

• ลูกค้าหรือพาร์ทเนอร์มักต้องการ ซัพพลายเออร์ที่มีมาตรฐานสูงขึ้น
• การมี GHP + HACCP จะช่วยเปิดโอกาสในการขยายตลาดสู่ระดับสากล เช่น EU, US, ญี่ปุ่น
• ช่วย สร้างภาพลักษณ์ที่ดี ให้กับธุรกิจ ว่าเป็นองค์กรที่ให้ความสำคัญกับ สุขอนามัย และ คุณภาพสินค้า

หากธุรกิจของคุณต้องการ:

✔ มาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับระดับสากล
✔ ลดความเสี่ยงด้านสุขอนามัย
✔ เพิ่มโอกาสทางการค้าและส่งออก

การ อัปเกรดจาก GMP ไปเป็น GHP จึงเป็นทางเลือกที่ควรดำเนินการโดยเร็วเพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างมั่นคงและตอบโจทย์ตลาดโลก